How to การนับแต้มของกีฬากอล์ฟ

กีฬากอล์ฟ

ว่าง ๆ มาตีกอล์ฟกัน

หากใครที่ไม่รู้ว่าช่วงนี้จะทำอะไร การไปตีกอล์ฟก็ถือเป็นกีฬาอย่างหนึ่งที่น่าลอง ที่สามารถทำให้เพลิดเพลินบันเทิงใจได้ และเป็นกีฬาที่ดีที่จะทำให้วันที่วันว่าว ๆ ของเรานั้นหายไปได้อย่างมีคุณภาพ แต่หลาย ๆ คนส่วนใหญ่อาจยังไม่เคยได้ลองตีกอล์ฟ เรื่องของการนับคะแนนก็ถือเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับบางคน เพราะบางคนนั้นตีกอล์ฟแค่เพื่อความเพลิดเพลินแต่ไม่ได้สนใจที่จะนับแต้ม แต่ในวันนี้เราจะพามาดูการนับแต้มของกีฬากอล์ฟกัน ว่าการตัดสินแพ้-ชนะของกีฬาประเภทนี้เขามีกฎเกณฑ์ ใช้อะไรในการตัดสินอย่างไร

How to การตัดสินแพ้ชนะของกีฬากอล์ฟ

1 ตัดสินตามแต้มสโตรครวม

ในการแข่งขันจะมีการนับสโตรคที่แตกต่างออกไปจากตอนธรรมดา เพราะต้องเจอกับอุปสรรคหลายอย่าง ทำให้แต้มสโตรคนั้นไม่เท่ากัน และเมื่อจบการแข่งข้นแล้ว ผู้ที่มีสโตรคน้อยกว่าก็จะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าเทียบกับเวลาเล่นปกติแล้วสนามกอล์ฟจะมีหลุมอยู่ทั้งหมด 18 หลุม ถูกออกแบบให้การตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุมครบทุกหลุมจะใช้การตีทั้งหมด 72 ครั้งซึ่งจะได้สโตรค 72 แต้มด้วยกันนั่นเอง

2 ตัดสินแพ้ชนะตามหลุม

กรณีนี้จะนับแต้มแยกเป็นหลุม ผู้ที่ตีลูกกอล์ฟให้เข้าหลุมโดยใช้จำนวนครั้งที่น้อยกว่าจะเป็นผู้ชนะและได้รับ 1 แต้ม เมื่อแข่งขันจนครบทุกหลุมแล้ว คนที่มีแต้มมากว่าจะเป็นผู้ชนะไป การตัดสินลักษณะนี้ยังสามารถจบการแข่งขันได้ โดยไม่จำเป็นต้องตีกอล์ฟให้ครบทุกหลุม

3 ตัดสินตามระดับความสามารถของผู้แข่งขัน

การตัดสินผลแพ้ชนะประเภทนี้จะถูกใช้เมื่อผู้แข่งขันมีฝีมือที่แตกต่างกัน เช่น นักกีฬาA เป็นนักกอล์ฟมือใหม่ ในการตีกอล์ฟ 18 หลุมจะมีสโตรครวม 80 แต้ม

นักกีฬาB เป็นนักกอล์ฟฝีมือดีในการตีกอล์ฟ 18 หลุมก็จะมีสโตรครวม 70 แต้ม จะเห็นว่านักกีฬาสองคนนี้มีระดับฝีมือที่ต่างกัน เพราะสโตรคมีความต่างกันถึง 10  แต้ม

เมื่อนักกีฬา A แข่งขันกับนักกีฬา B พบว่ามีสโตรครวม 74 และ 68 ตามลำดับ จะเห็นว่านักกีฬา B มีแต้มน้อยกว่าปกติ 2 แต้ม ส่วนนักกีฬา A มีแต้มน้อยกว่าปกติ 6 แต้ม กรณีนี้นักกีฬาA จะเป็นผู้ชนะเนื่องจากแต้มที่ได้ลดลงจากปกติ ถึง 6 แต้มซึ่งมากกว่านักกีฬาB ที่ลดลงเพียง 2 แต้ม อย่างที่ทราบกันว่าการเล่นกอล์ฟไม่จำเป็นต้องมีคู่ต่อสู้เสมอไป จึงมีการแข่งขันอีกรูปแบบในลักษณะ แข่งขันกับขีดจำกัดของตนเองโดยใช้พาร์ (Par) เป็นตัวอ้างอิง

พาร์เป็นคำใช้เรียกมาตรฐานในการเล่นกอล์ฟ โดยแต่ละหลุมในสนามกอล์ฟจะมีความยากในการเล่นที่แตกต่างกัน เช่น พาร์ 4 หมายถึง ควรจะตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุมนี้โดยใช้การตีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น โดยในปัจจุบันนี้หลุมที่นิยมในการใช้เล่นกอล์ฟ คือ พาร์ 3 ถึง พาร์ 7 ยิ่งพาร์สูงแสดงว่าหลุมนั้นมีความยากขึ้นตามลำดับ

ลุย!

ได้รู้หลักการตัดสินแพ้-ชนะของกีฬาตีกอล์ฟกันแล้ว แบบนี้เราก็สามารถที่จะตีกอล์ฟแบบแข่งขันกับเพื่อน ๆ ได้เพื่ออรรถรสของการเล่นกีฬามีแพ้ มีชนะ เป็นการเล่นกีฬาที่ให้มากกว่าความเพลิดเพลินในวันว่าง ๆ เรามาตีกอล์ฟกัน