ตู้เชื่อมไฟฟ้า มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ตู้เชื่อมไฟฟ้า

สำหรับใครที่กำลังต้องการตามหาตู้เชื่อมไฟฟ้ามาใช้งาน รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆสำหรับงานเชื่อม วันนี้เราจะพามาดูว่าตู้เชื่อมไฟฟ้า มีให้เลือกกี่แบบ และมีข้อจำกัดข้อดีอย่างไร ตามมาดูกัน

ตู้เชื่อมไฟฟ้ามีทั้งหมดกี่แบบ มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ตู้เชื่อมไฟฟ้าหรือที่เราเรียกว่า ตู้เชื่อม เป็นเครื่องมือสำหรับงานเชื่อม ทุกรูปแบบ การเชื่อมไฟฟ้าเป็นการผสมผสานระหว่างอิเล็กโทรดหรือลวดเชื่อม ส่งกระแสผ่านสายเชื่อมไปยังจุดอาร์ค จนทำให้โลหะกับลวดเชื่อมเกิดการหลอมละลายผสมผสานเข้าติดกัน เป็นเครื่องมือช่วยทุ่นแรงสำหรับช่างเชื่อมทุกคน

ข้อเสียของการใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้า มีดังนี้

ถึงแม้ตู้เชื่อมไฟฟ้าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับช่างทั้งมือใหม่และมืออาชีพ แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียตามมาหลังจากการใช้งาน โดยเฉพาะข้อเสียของตู้เชื่อมไฟฟ้าหลังจากการใช้งานจะทำให้พบเจอปัญหาและอุปสรรค มากมายดังนี้ ในเรื่องของความร้อนและสะเก็ดไฟ ปัญหานี้เป็นเรื่องปกติและยากที่จะควบคุมเพราะทุกคนต้องเจอระหว่างการใช้งานอยู่แล้ว การเกิดควันพิษหรือมลพิษรอบข้าง เราสามารถหาอุปกรณ์ป้องกัน หรือการใส่ชุดป้องกันความปลอดภัยเฉพาะบุคคลระหว่างการปฏิบัติงานได้ทุกครั้ง การเจอปัญหากระแสไฟตก กระแสไฟตกเป็นปัญหาสำคัญต่อเครื่องเชื่อมไฟฟ้า เพราะมีปัญหาต่อการปฏิบัติหน้างานทันที ทำให้เครื่องเชื่อมทำงานเกิดการหลอมละลายที่ไม่ดี เชื่อมแล้วติด เหล็กไม่ละลาย และอาจทำให้เครื่องพังได้เช่นกัน

การดูแลรักษาและข้อควรระวังการใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

หากพูดถึงเรื่องการใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานหนักมาก ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจและตรวจสอบดูแลระบบการทำงานรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนนำไปเก็บทุกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้งานครั้งต่อไปได้ มีรายละเอียดดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการดัดแปลงและการตัดต่อต่างๆ

ข้อควรระวังสำหรับการใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้าไม่ควรดัดแปลงหรือตัดต่อในส่วนต่างๆ เพราะอุปกรณ์แต่ละชนิดรวมถึงสายไฟ ข้อต่อต่างๆถูกกำหนดมาและทดสอบให้ได้มาตรฐานอยู่แล้ว หากเรามีการดัดแปลงเพื่อนำไปใช้งานในลักษณะต่างๆอาจทำให้มีผลกระทบต่อการใช้งานในอนาคตได้

2.ต้องหมั่นทำความสะอาด และตรวจสอบความผิดปกติของเครื่องสม่ำเสมอ

การเตรียมความพร้อมเพื่อนำไปช่วยงาน ช่างทุกคนจำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องการทำความสะอาดและตรวจสอบระบบการใช้งานของเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เช่นตรวจดูระดับความชื้น ตรวจดูการปนเปื้อนของน้ำมัน และเศษส่วนต่างๆ เป็นต้น รวมถึงการตรวจสอบรอยรั่วของสายไฟและวงจร เพื่อความปลอดภัยและการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพของตู้เชื่อมไฟฟ้าในครั้งต่อไปได้เป็นอย่างดี

3.ควรทำความสะอาดเก็บอุปกรณ์ และวางในที่ที่เหมาะสม

การทำความสะอาดและจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ หลังจากการใช้งาน ไม่ควรวางทิ้งไว้แต่ต้องนำไปจัดเก็บให้ปราศจากเศษฝุ่นและความชื้น โดยเฉพาะการเลือกวางในสถานที่ปราศจากความชื้น และมีความแข็งแรงจะทำให้เครื่องปราศจากการตกหล่น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น

ดังนั้นการเลือกใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้า จะต้องหมั่นทำความสะอาดและดูแลอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่หากเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องเชื่อมประเภทอื่นเครื่องเชื่อมไฟฟ้า มีราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับการนำไปใช้ฝึกฝีมือให้กับช่างมือใหม่หรือช่าง DIY ทั่วไปได้